อภัยภูเบศรทางเลือกที่น่าสนใจเสริม

ในปีที่ผ่านมาอภัยภูเบศรได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกหลายคนเนื่องจากการศึกษาทางคลินิกมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประโยชน์ด้านสุขภาพ แม้ว่านักวิจัยจะยังคงเรียนรู้ผลกระทบทางชีวเคมีของอภัยภูเบศรในโรคของมนุษย์การค้นพบเบื้องต้นของขมิ้นเพื่อการป้องกันโรคและการรักษานั้นเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจอย่างมาก ขมิ้นเป็นพืชยืนต้นของตระกูลขิงและมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อภัยภูเบศรนั้นได้มาจากลำต้นใต้ดินแห้งและส่วนประกอบสำคัญคือขมิ้นชันซึ่งเป็นสิ่งที่ให้ขมิ้นของผลการรักษารสชาติฉุนและสีเหลือง อย่างไรก็ตามนอกจากอภัยภูเบศรแล้วยังมีสารที่มีประโยชน์อื่น ๆ ในขมิ้น ในการปรุงอาหารมักใช้ขมิ้นเป็นเครื่องเทศในแกงอินเดียและอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางอื่น ๆ มันเป็นส่วนผสมที่ทำให้มัสตาร์ดอเมริกันสีเหลืองสดใส ตามเนื้อผ้าขมิ้นยังใช้เป็นสีย้อมในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นเครื่องยับยั้งมดและเพื่อวัตถุประสงค์ในพิธี ในต่อไปนี้เราจะเน้นการใช้ยาของอภัยภูเบศร อภัยภูเบศรเป็นสมุนไพรที่พบว่าช่วยต่อต้านมะเร็งดูแลหัวใจลดระดับคอเลสเตอรและลดความเจ็บป่วยจากโรคร้ายเช่นอัลไซเมอร์ เนื่องจากประโยชน์ที่ได้รับความนิยมผู้คนจึงถามจำนวนขมิ้นที่ใช้ในรูปแบบและความถี่ การดูดซึมอภัยภูเบศรขมิ้นชันในร่างกายค่อนข้างซับซ้อนซึ่งต้องใช้ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิดเพื่อดูดซึมและบริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณค่าทางโภชนาการของขมิ้นเองไม่สามารถรับรู้ได้อย่างเต็มที่ ในการหาจำนวนขมิ้นที่ใช้คุณต้องกำหนดปริมาณและวิธีการขนส่ง ขมิ้นเสริมสามารถได้รับในขนาดสูงถึง 600 มก. แต่ในกรณีที่ไม่มีการเคลือบป้องกันของยาเม็ดเนื้อหาส่วนใหญ่จะถูกย่อยสลายโดยกรดในกระเพาะอาหาร อภัยภูเบศรซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในขมิ้นหากส่งมอบในความบริสุทธิ์ปกติ ผ่านส่วนผสมแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ 50 มก. ต่อวันเพียงพอสำหรับความต้องการในการดูแลรักษาสุขภาพแล้ว มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบว่ามันไม่ได้เป็นอย่างมากในการใช้ขนาดที่สูง แต่ในลักษณะที่อภัยภูเบศรถูกนำมาประสานกับส่วนผสมอื่น ๆ ที่มาถึงกระแสเลือด ยังไม่มีการกำหนดปริมาณที่เพียงพอและมีการแนะนำสำหรับขมิ้น เมื่อเปรียบเทียบกับยาที่มีการศึกษาทางการแพทย์อย่างละเอียดเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสมขมิ้นซึ่งเป็นอาหารเสริมในตัวมันเองมีข้อมูลน้อยลงเกี่ยวกับปริมาณที่เพียงพอซึ่งแตกต่างจากยาเสริมสมุนไพรไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติ จากคณะกรรมการการแพทย์หรือผู้มีอำนาจและดังนั้นจึงไม่มีการศึกษาในเชิงลึกเพื่อยืนยันปริมาณเท่าใดรายวันที่คนควรมี ในมุมมองนี้มันจะรอบคอบและใช้ประโยชน์ได้จริงเพื่อดูปริมาณที่กำหนดของอภัยภูเบศร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีอยู่ในตลาดและอ่านอย่างระมัดระวังหากเหมาะสมสำหรับคุณหรือหากมีข้อบ่งชี้ว่ามีการใช้ขมิ้นเท่าไร คุณอาจสนใจที่จะรู้ว่าถ้าคุณใช้สูตรสารอาหารอเนกประสงค์ที่มีสารสกัดจากอภัยภูเบศรคุณจะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากและคุณสามารถปรับปรุงสุขภาพของคุณได้เร็วขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.abhaithaiherb.com/

คุณสมบัติกับสรรพคุณทางยาของเห็ดหลินจือแดง

สมัยปัจจุบันได้มีงานวิจัยทางคุณสมบัติของเห็ดหลินจือแดง พบว่าเห็ดหลินจือแดงมีสารประกอบต่างๆที่มีคุณสมบัติทางยา ตัวอย่างเช่น สาร  Ganoderic & Lucidic Acid (Polysaecharideof Pentose)  สารชนิดนี้เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่ของน้ำตาลแพนโตส  มีรสชาติขม  เป็นสารที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือ  พร้อมทั้งเห็ดทั่วไป  มีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารอินเตอร์เฟรอน  ซึ่งสารกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันการเข้าทำลายเนื้องอก  หรือค้านความเติบโตของมะเร็งยางชนิดได้  รวมทั้งโรคเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ ด้วยเหตุว่าสาร Ganoderic & Lucidic Acid เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ร่างกายนำเอาไปใช้ยากลำบาก แต่สารแดสคอร์บิก  แอซิด  ไม่ก็วิตามินซี จะช่วยลดขนาดของสาร  Ganoderic & Lucidic Acid  ลงเป็นเหตุให้ร่างกายดูดเอาไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเช่นนั้นในการรับประทานนิยมใส่วิตามินซีเข้าไปในส่วนแบ่ง 100  มิลลิกรัม ต่อ เห็ด 5 – 10 กรัม คุณลักษณะต่าง ๆ ที่เป็นที่ดึงดูดในเห็ดหลินจือ  หมายถึง คุณลักษณะในทางการรักษาร่างกายและทางยาเท่านั้นเพราะตัวของเห็ดเองมีรูปพรรณสัณฐานหยาบแบบเนื้อไม้  ไร้กลิ่น  บางพันธุ์ยังมีรสขม  หวานหรือเปรี้ยว  ไม่ก็อาจปราศจากรส  คนจีนนับว่าเป็นชาติเริ่มแรกที่รู้จักขบวนการใช้เห็ดหลินจือเป็นยาอายุวัฒนะ ปกป้องพร้อมทั้งรักษาความเจ็บป่วยมากมายหลายชนิด ในเห็ดหลินจือยังพบสารเจอมาเนียม ซึ่งเป็นสารที่สำคัญที่สุดที่มีอยู่ในโสมราคาแพง  […]

สรรพคุณ “ถั่งเช่า” ที่น่าจะคัดเลือกหาจ่ายมาทาน

ถ้าใครที่แลหาถั่งเช่า สมัยปัจจุบันนั้นหามากินได้สบายมาก เพราะมีผลิตผลถั่งเช่าให้เราได้หามากินกันได้กันแบบคล่องทั้งยังมาต่างๆนาๆแบบในราคาที่ทั่วๆ ไปสามารถสัมผัสได้ ไปกระทั่งถึงราคาที่แพงทวีคูณ ถั่งเช่ามีสารอะดีโนซีน ต่อต้านการจับตัวของเลือด ต้านทานการอุบัติลิ่มเลือด ช่วยปรับเท่ากันของหน้าที่กระเพาะให้ตามปรกติ  ถั่งเช่าช่วยรักษาสภาพปวดกะเอว บำรุงปอด และเอาใจใส่ดูแลไต รังสีเยียวยา  ช่วยปรับความเสมอภาคในการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ป้องกันการลดจำนวนของเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยที่จำต้องรักษาความเจ็บป่วยด้วยเคมีรักษา  และช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน แก้ปวดเข่าได้อีกด้วย จักเห็นได้ว่าถั่งเช่านั้นมีสารพัดประโยชน์ หลายคนคงจะยังไม่เคยเห็น ก็อาจจะแปลกใจไม่ใช่หรือละครับว่า เจ้าอเนกประสงค์นี้โครงหน้าจะเป็นเช่นไรจริงแล้วรูปหน้าของเจ้าถั่งเช่านั้นก็มีสัณฐานคลับคล้ายหนอนนั่นแหละครับ เพราะว่าเกิดจากหนอนผีเสื้อแถบพื้นที่ราบสูงทิเบต  ที่ถือศีลอยู่ใต้ดินในหน้าหนาว หลังจากนั้นโดนสปอร์ของเห็ดราในสกุล Ophiocordycepsอาศัยเป็นพยาธิและโตขึ้นสร้างไฟเบอร์ออกมาทางท่อนหัวของตัวหนอนความก้าวหน้าของถั่งเช่านั้น โดยปกติตัวหนอนจะยาว 4-5 เซ็นติเมตร ใน 1 วัน ราถั่งเช่า อาจจะงอกงามยาวทัดเทียมกับตัวหนอน ในบัดนี้คุณภาพถั่งเช่าจะยอดดี จนกระทั่งวันที่ 2 ราถั่งเช่าอาจจะเจริญเติบโตประมาณการทวีคูณของตัวหนอน เรียกว่า ‘เอ้อฉ่าว’ พอครบถ้วน 3 วันขึ้น คุณภาพจะรองลงมาเรียกว่า ‘ซานฉ่าว’ จะโตขึ้นโดยทันทีมาก แต่เก็บไปก็มิได้ให้ประโยชน์มากนัก